ความเชื่อผิดๆ: ยิ่งอายุมากยิ่งแรงน้อย และประสาทสัมผัสทั้ง 5 เสื่อมถอย
ความเป็นจริง: ผู้สูงอายุทุกคนจะมีการเสื่อมถอยของอวัยวะร่างกายทุกระบบ มากน้อยแตกต่างกันไป เช่น ความสูงลดลง 2 นิ้ว ปริมาณกล้ามเนื้อลดลงร้อยละ 30 การรับรสของลิ้นลดลงร้อยละ 70 สมรรถภาพปอดลดลงร้อยละ 17 ปริมาณแสงที่เข้าไปถึงจอตาช่วยในการมองเห็นลดลงร้อยละ 70 แต่การเสื่อมถอยที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุที่ทำให้ความสามารถในการทำหน้าที่ของอวัยวะลดลงนั้นพบได้เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่เหลืออีก 2 ส่วน หรือร้อยละ 60-70 นั้น "มาจากโรคและการไม่ได้ใช้งานของอวัยวะนั้นๆ" 

ความเชื่อผิดๆ: ภาวะทุพพลภาพในผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงจากความสูงวัย
ความเป็นจริง: ภาวะทุพพลภาพส่วนหนึ่งเกิดจากการเสื่อมถอยจากอายุที่มากขึ้น แต่เราสามารถชลอความเสื่อมได้ด้วยการปฏิบัติตนอย่างถูกสุขอนามัย หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็นเพราะอาจเกิดภาวะทุพพลภาพจากผลข้างเคียงของยา กินอาหารอย่างเหมาะสมกับวัย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างเพียงพอ

ความเชื่อผิดๆ: การพัฒนาทางจิตจะหยุดชงักเมื่ออายุเข้าปีที่ 70 ไม่สามารถพัฒนาได้อีก
ความเป็นจริง: ผู้สูงอายุที่มีการเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุจะสามารถพัฒนาจิตใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงของวัยสูงอายุได้ ยอมรับการสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจในธรรมชาติของชีวิต สามารถดำเนินชิวิตได้อย่างสงบสุข รู้จักการดูแลสุขภาพตนเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับบุตรหลาน บางคนยังสามารถใช้ความสำเร็จในวัยทำงานมาเป็นพลังเพื่อสารต่อกิจกรรมในวัยสูงอายุได้อย่างต่อเนื่อง 

ความเชื่อผิดๆ: การเป็นหม้ายและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตทำให้มีผลกระทบต่อผู้สูงอายุ
ความเป็นจริง: เป็นส่วนหนึ่งของผู้สูงอายุแต่ไม่ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน อิริกสัน ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียง กล่าวไว้ว่า "พัฒนาการทางด้านอารมณ์ความรู้สึกและจิตใจของคนเรามีการพัฒนามาตั้งแต่วัยเด็กจนสิ้นอายุขัย" ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพของแต่ละคน และการเรียนรู้ของแต่ละวัย พุทธศาสนา สอนให้เรารู้จักปล่อยวางกับทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของเรา สอนให้รู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนจึงไม่ควรไปยึดเอาไว้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนึพ้น ตอนที่เราเกิดมามีเพียงตัวเปล่า ตอนที่เราจะจากไปเราก็ต้องไปมือเปล่าเช่นกัน หากใครที่ศึกษาธรรมะแล้ว การพัฒนาของจิตใจย่อมสงบ และเผชิญกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างมั่นคง 

ความเชื่อผิดๆ: เป็นเรื่องปกติที่ผู้สูงอายุจะเกิดการเสื่อมถอยของความสามารถในการรู้คิดและสติปัญญา หรือไม่สามารถสอนสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้สูงอายุได้ หรือมีภาวะสมองเสื่อม
ความเป็นจริง: ภาวะสมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พิษจากยาบางชนิด (ยารักษาอาการทางจิตเวช ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น) โรคบางชนิด (โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคหลอดเลือดแข็ง) ภาวะขาดสารอาหารและวิตามิน ฯลฯ การรู้คิดและสติปัญญาของผู้สูงอายุยังคงสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ เพียงแต่รูปแบบการเรียนรู้จะแตกต่างจากวัยอื่นๆ เช่น เป็นเรื่องที่มีความสอดคล้องกับประสบการณ์ในอดีต บรรยากาศการเรียนรู้มีความผ่อนคลายไม่เร่งเร้า นอกจากนั้นการเรียนรู้ของผู้สูงอายุยังขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ประสบการณ์การแก้ปัญหาในอดีตที่ผ่านมาด้วย

ความเชื่อผิดๆ: อาการท้องผูกในผู้สูงอายุเกิดจากความสูงวัย
ความเป็นจริง:  อาการท้องผูกในผู้สูงอายุเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไม่ได้รับอาหารที่เป็นกากใยหรือไฟเบอร์อย่างเพียงพอ ได้รับน้ำแต่ละวันไม่เพียงพอ ยารักษาโรคบางชนิด โรคบางโรคทำให้กิจกรรมทางกายลดลง (เช่น เบาหวาน ไขข้ออักเสบ ซึมเศร้า สมองเสื่อม โรคหัวใจ ฯลฯ) ขาดการออกกำลังกาย พฤติกรรมกลั้นอุจจาระ ฯลฯ

ความเชื่อผิดๆ: ผิวหนังที่เหยี่ยวย่นสามารถป้องกันโดยใช้โลชั่นบำรุงผิว
ความเป็นจริง: การเหยี่ยวย่นของผิวหนังก่อนเวลาอันควรมีสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสกับแสงยูวีบ่อยๆ และนานๆ นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่นคือ สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ สูบบุหรี่ ความเครียด ดื่มอัลกอฮอลมากเป็นเวลานาน การขาดสารอาหารและวิตามิน

ความเชื่อผิดๆ: เพศสัมพันธ์ในผู้สูงอายุจะลดลง
ความเป็นจริง: คำว่า "เพศสัมพันธ์" นั้นมีความหมายกว้างซึ่งอาจหมายถึง การร่วมหลับนอน การเดินจับมือ การโอบกอด การหยอกล้อ การนอนหนุนตัก ฯลฯ ก็เรียกได้ว่า "เพศสัมพันธ์" ทั้งหมด ผู้สูงอายุก็ยังคงต้องการเช่นเดียวกับวัยอื่นๆ เพียงแต่แตกต่างกันที่รูปแบบของการแสดงออก ปัจจัยที่อาจทำให้เพศสัมพันธ์ในผู้สูงอายุลดลงได้คือ โรคเรื้อรัง ความเครียด ภาวะเศรษฐกิจและสังคม (ปรีชา อุปโยคิน, 2561) 

 ความเชื่อผิดๆ: อาการไม่พึงประสงค์จากยาในผู้สูงอายุ มีผลเช่นเดียวกับวัยผู้ใหญ่
ความเป็นจริง: อาการไม่พึ่งประสงค์จากยาในผู้สูงอายุจะมีลัษณะที่แตกต่างไปจากวัยผู้ใหญ่ ที่พบบ่อยๆ คือ 
     - ภาวะหกล้มจากยา (ยากล่อมประสาท ยาขยายหลอดเลือด ยาขับปัสสาวะ)
     - อาการพาร์กินสันจากยา เช่่น อาการเคลื่อนไหวช้า อาการสั่นขณะอยู่เฉยๆ อาการแข็งเกร็ง การทรงตัวลำบาก (Flunarizine, Cinnarizine, Antipsychotic:ยาต้านอาการทางจิต, Metoclopramide:ยารักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน) 
     - ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารจากยา (ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช้สเตรียรอยด์ เช่น ยาแก้ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ Diclofenac, Brufen หรือยาคลายกล้ามเนื้อ Mydocalm เป็นต้น) 
     - เบื่ออาหารน้ำหนักลดสาเหตุจากยา 
     - อาการปวดข้อจากยา 
     - ภาวะซึมเศร้าจากยา 
     - ภาวะสับสนเฉียบพลันจากยา เป็นต้น (กฤษฎาพร ทิพย์กาญจนเรขา และสำลี สาลีกุล, 2562)  

หน้า: 1 2 3 4